Support
Doodee
0996382854
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ
 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2015-05-16 16:41:46.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  5 ศัตรู! ที่จะทำให้คุณกลายเป็น…มนุษย์ ‘โรค’ โซเชียล

 

สังคมก้มหน้า1

‘ปัญหาสังคมก้มหน้า’ ศัตรูหมายเลขหนึ่งของชาติชักกำเริบมากขึ้นทุกที!

ยุคสังคมออนไลน์ที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นอวัยวะที่ 33 ของร่ายกายอย่างขาดไม่ได้ จึงทำให้ใครหลายคนมักมีตาแบบหมีแพนด้า ชอบกด ชอบสัมผัส ชอบถูไถอุปกรณ์สื่อสารทุก 5 นาที เวลาใช้รถไฟฟ้าจะโก่งคอโดยไม่มีสาเหตุ เอาจริงเอาจังเป็นพิเศษกับเรื่องไร้สาระ และอาหารหลักส่วนใหญ่ คือ มาม่า และขนม

ไม่ว่าจะคุยกับเพื่อนผ่านเฟสบุ๊คหรือไลน์แทนการโทรศัพท์ ใช้นิ้วสไลด์หน้าจอรับข่าวสารรอบตัวแบบไม่ให้ตกยุค พฤติกรรมเหล่านี้แหละที่หอบเอาปัญหาสุขภาพชนิดอินเทรนด์มาถึงตัวแบบยกเซต และนี่คือ 5 ‘โรค’ โซเชียล…ที่คุกคามพวกเราจนกลายเป็นศัตรูระดับชาติ โดยที่คุณอาจไม่เคยรู้ตัวเลยเชียวล่ะ!

 

Sadbook…โรคซึมเศร้าจากเฟสบุ๊ค (Facebook Depression Syndrome)

อาการนี้เกิดขึ้นได้เมื่อติดอยู่แต่หน้าจอ จิ้มๆ กดๆ คุยกับคนในโลกออนไลน์ จึงทำให้เรากลายเป็นเพิกเฉยต่อคนในโลกจริง นั่นเพราะเฟสบุ๊คได้สร้าง ‘ความเป็นจริงเทียม’ (Artificial Reality) ขึ้นมา จากการโพสแต่เรื่องดีๆ แต่เก็บงำเรื่องร้ายๆแย่ๆที่อยากปกปิดเอาไว้ เราถึงเห็นแต่คนที่มีชีวิตสมบูรณ์แบบในโลกเสมือนจริงเต็มไปหมด เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับตัวเอง…ความรู้สึก ‘ไร้ค่า’ จึงเกิดขึ้น

Sleephone…โรคละเมอแชท (Sleep-Texting)

ถึงแม้เราจะนอนแต่ก็ยังลุกขึ้นมาพิมพ์เหมือนกับคนละเมอยังไงยังงั้น สาเหตุก็มาจากพฤติกรรมติดสมาร์ทโฟนเกินเหตุ กระทบมาถึงระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้สะสมความเครียด เสี่ยงเป็นโรคอ้วน ฝันร้าย กระทบต่อการเรียนและการทำงานได้อีกด้วย

โรควุ้นในตาเสื่อม

หากประสิทธิภาพการมองเห็นของเรา เหมือนกับเห็นหยากไย่ ตาข่าย หรือเส้นอะไรวนไปวนมาเหมือนยุง ปัดเท่าไรก็ไม่โดนซักที นี่คือ ‘โรควุ้นในตาเสื่อม’ ปัจจุบันพบคนอายุน้อยเป็นโรคนี้มากขึ้น สาเหตุหลักๆก็มาจากการแชตทั้งวันทั้งคืนจนไม่ลืมหูลืมตานั่นเอง วิธีป้องกันไม่ยากแค่รู้จักพักสายตา มองไปในที่ไกลๆบ้าง และบอกเลิกกับ ‘สมาร์ทโฟน’ ของคุณ…ปลีกตัวห่างโซเชียลบ้าง ก็จะดีครับ

Nomophonebia…โรคโนโมโฟเบีย (Nomophobia)

โรคนี้แปลตรงตัวก็คือ ‘โรคกลัวไม่มีมือถือใช้’ เป็นโรคทางจิตเวชประเภทหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มวิตกกังวล หมกมุ่นอยู่กับการเช็คข้อความในมือถือ หรือใช้เวลาพูดคุยกับเพื่อนในโลกออนไลน์มากกว่าเพื่อนตรงหน้าเสียอีก ใครที่มีอาการดังกล่าว ต้องระวังปัญหาสุขภาพให้มากๆ โดยเฉพาะนิ้วล็อก ปวดตา ปวดเมื่อยคอ บ่า ไหล่ หมอนรองกระดูกเสื่อมก่อนวัยอันควร เพราะนั่งผิดท่าเป็นเวลานานๆ รวมทั้งอาการนอนไม่หลับ และโรคอ้วนที่เกิดจากการมัวแต่นั่งเล่นมือถือนานๆ ไม่ยอมขยับเขยื้อนร่างกายลุกไปไหน

Smartphace…โรคสมาร์ทโฟนเฟซ (Smartphone Face)

เกิดจากการที่เราก้มลงมองหน้าจอ หรือจ้องสมาร์ทโฟน-แท็บเล็ตเป็นเวลานานเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อคอเกิดอาการเกร็งและไปเพิ่มแรงกดบริเวณแก้ม ส่งผลให้ ‘เส้นใยอิลาสติก’ บนใบหน้ายึด จนแก้มบริเวณกรามย้อยลงมา แถมกล้ามเนื้อบริเวณมุมปากก็จะตกไปทางคางด้วย จนใบหน้าอาจดูผิดแปลกไป เสียตังทำศัลยกรรมที…ยอดไลค์ก็ช่วยไม่ได้นะครับ

 

อนึ่ง, เหนือกว่าการแชท คือ การโทร…เหนือกว่าการโทร คือ การได้มองตากัน ครับ

แหล่งที่มา

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2015-05-02 07:57:42.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  เมืองกรุง เมืองนอก นอกเมือง [แบบไหนที่คุณชอบ?]

เมืองกรุง เมืองนอก นอกเมือง

อยู่เมืองกรุง... ฉันตื่นเช้า รีบอาบน้ำ เปิดตู้เสื้อผ้า พยายามแหวกหาชุดที่ไม่ซ้ำกับเมื่อวาน หรือวันก่อน หรือวันก่อนหน้านั้นอีก... ฉันกลัวว่าใครจะทักว่าทำไมใส่ชุดซ้ำ... ฉันรีบลงลิฟต์ ถ้าได้กาแฟสักแก้วคงจะดี เพราะฉันยังเหนื่อยจากเมื่อวานอยู่... และเมื่อวานฉันก็เหนื่อยจากวันก่อน... และวันก่อนๆ... และวันก่อนหน้านั้นอีก... ฉันติดอยู่กลางถนน ก็เหมือนกับทุกวันนั่นแหละ แต่ฉันก็ยังตื่นเต้นกับมัน ราวกับรถติดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวันจันทร์ 


อยู่เมืองนอก... ฉันตื่นเช้า ใส่ชุดตัวสวยที่เตรียมมา รีบออกจากที่พัก มีที่สวยๆ อีกหลายที่ที่ฉันอยากไป ที่นี่ทุกอย่างแปลกใหม่... ฉันไม่จำเป็นต้องก้มหน้าหาสิ่งน่าสนใจในมือถืออีกแล้ว เพราะชีวิตฉันอยู่ตรงนี้... ที่นี่ เวลานี้เลย... ข้างนอกนี้น่าตื่นเต้น ผู้คนแปลกตา ฉันอยากยิ้มให้คนแปลกหน้า แต่พอใจกับการอมยิ้มไว้คนเดียว... รู้สึกว่าตัวเองอัธยาศัยดีขึ้น หรือไม่อย่างนั้นฉันก็เป็นบ้าไปแล้ว... เพราะฉันมีความสุขเหลือเกิน


อยู่นอกเมือง... ฉันตื่นเช้า ใส่ชุดตัวเดิมที่ใส่เมื่อสองวันก่อน ไม่มีใครจำได้หรอกว่าฉันใส่อะไรวันไหน... ฉันอาบน้ำ แต่งตัว เก็บที่นอน รถน้ำต้นไม้ ให้อาหารแมว ขับรถออกไปตลาด ทำกับข้าว ล้างจน อ่านหนังสือ... ทำเสร็จไปตั้งหลายอย่าง คงจะเที่ยงแล้ว... ฉันดูนาฬิกา เพิ่งจะแปดโมง... นี่เวลายังเดินอยู่รึเปล่า... ไม่รู้เคยรู้มาก่อนว่าชีวิตฉันมีเวลาเยอะขนาดนี้



อยู่เมืองกรุง… ฉันมีเพื่อนที่ทำงานหลายคน แต่มีน้อยคนที่ฉันกล้าเรียกว่า ‘เพื่อน’ จริงๆ... แต่ฉันยังสนิทกับเพื่อนสมัยมัธยม เพื่อนมหา’ลัยด้วย เรายังเจอกันบ่อยๆ... บ้างที่ร้านอาหารญี่ปุ่น บ้างในร้านไก่บอนชอน... “เป็นไงบ้างแก ที่ทำงานเป็นไง ชีวิตตอนนี้ดีมั้ย อัพเดทให้ฉันฟังเร็ว” เราถามกันประจำ 


อยู่เมืองนอก... ฉันไม่มีเพื่อนสักคนเดียว... แต่แปลก... ฉันรู้สึกเป็นคนสำคัญ... เหมือนกับโลกทั้งใบกำลังหมุนรอบฉัน... เพื่อนของฉันอยู่ไกลไปสามพันไมล์ แต่ฉันไม่เหงา... เพราะฉันยังติดต่อกับทุกคนได้ ผ่านมือถือน้อยๆ เครื่องนี้... ทุกครั้งที่มีคนกดไลค์รูปที่ฉันอัพ... ฉันรู้สึกดี... รู้สึกว่าฉันยังเป็นคนสำคัญสำหรับพวกเขาอยู่


อยู่นอกเมือง... ฉันไม่รู้จักใครสักคน... แต่ทุกคนกลับนับฉันเป็นเพื่อน ก็แปลกดีเหมือนกันนะ... พวกเขาแวะมาหาทั้งๆ ที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งเดียว เลี้ยงข้าวฉันทั้งที่เราไม่ได้นัดประชุมหรือทำธุรกิจร่วมกัน เขาถามฉันว่า อร่อยมั้ย และยินดีจะไปทอดไข่เจียวให้ถ้าฉันกินอาหารพื้นบ้านไม่เป็น



อยู่เมืองกรุง... มีคนบ้ายิ้มให้ฉันในรถไฟฟ้า... ฉันหลุบตาและทำเป็นเล่นมือถือ... เขาสติดีรึเปล่า... ลึกๆ ฉันรู้สึกผิดเหมือนกันนะ ฉันควรจะยิ้มกลับให้เขารึเปล่า... แต่จะรู้ได้ยังไงว่าเขาเจตนาดี... ฉันพิมพ์หาเพื่อน... เล่าให้ฟังว่าใครไม่รู้มายิ้มให้... เพื่อนฉันส่งรูปยิ้มกลับมา... บอกฉันว่าให้ระวังตัว


อยู่เมืองนอก... ฉันยิ้มให้คนขายผลไม้... ยิ้มให้แม่ค้าขายไอศกรีม... คนเดินตั๋วรถเมล์ นักดนตรีเปิดหมวก และคนไร้บ้านที่กำลังเล่นกับหมาน้อย พวกเขายิ้มตอบให้ฉัน... บางคนทักทายกันเวลาเดินผ่าน บางคนเข้ามาช่วยเวลาฉันหลงทาง... ดีจัง ถ้าทำแบบนี้ได้ที่เมืองไทยคงจะดี


อยู่นอกเมือง... ทุกคนยิ้มให้ฉัน รู้สึกไม่ดีเลยที่จำชื่อพวกเขาไม่ได้ แต่อย่างน้อยฉันก็ยิ้มตอบทุกคน... ฉันคงนิสัยเสียมากถ้าเขายิ้มให้แล้วฉันทำเฉย... คนที่นี่เป็นอะไร ทำไมดีกับฉันอย่างนี้



อยู่เมืองกรุง... ฉันมีความสุข เพราะเพื่อนฉันอยู่ที่นี่ ครอบครัวฉันอยู่ที่นี่ งานฉันอยู่ที่นี่... แต่ฉันเหนื่อย บางวันล้า นานเข้าถึงกับท้อก็มี... ฉันถึงอยากไปเมืองนอก อยากไปพักผ่อน ไปทำใจให้สบาย ลืมเรื่องหนักๆ ในกรุงเทพฯ ฉันจะพักจนพอใจ หรือไม่ก็จนกว่าเจ้านายจะโทรตาม หรือจนกว่าเงินเก็บฉันจะหมด... แล้วฉันจะกลับมาทำงาน... ฉันจะขยันกว่าเดิม ทำงานหนักกว่าเดิม หาเงินให้ได้เยอะกว่าเดิม... เพื่อที่วันหนึ่งฉันจะได้อยู่เมืองนอกได้นานกว่าเดิม


อยู่เมืองนอก... ฉันมีความสุข เพราะทุกอย่างรอบตัวเป็นสิ่งใหม่... ฉันรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนเป็นคนใหม่ กล้าแสดงออกมาขึ้น อัธยาศัยดีขึ้น กังวลน้อยลง ฉันมีความสุขกับตัวเองมากขึ้น... เพื่อนๆ บอกว่าชีวิตฉันดี๊ดี และฉันเองก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน... แต่ฉันไม่อยากกลับไทย... ไม่อยากกลับไปเจอรถติด ควันพิษ อากาศร้อน... แต่ให้ทำไงละ... ฉันเป็นเพียงนกน้อย วันหนึ่งต้องบินกลับรัง... คงถึงเวลาที่ฉันต้องเรียนรู้ ที่จะมองหาข้อดีของรังตัวเองบ้างแล้ว


อยู่นอกเมือง... ฉันมีความสุข เพราะที่นี่ไม่มีเรื่องให้คิดมาก... ไกลกังวล... ที่นี่ฉันมีเวลาเป็นเพื่อน... ความสงบทำให้ฉันรู้จักตัวเองดีขึ้น... ตอนอยู่เมืองกรุงฉันอยากมีชีวิตดี๊ดี... พอไปเมืองนอก ฉันมีชีวิตดี๊ดีสมปรารถนา... แต่ที่นี่ นอกเมืองนี้ ฉันรู้สึกว่าฉันไม่จำเป็นต้องมีชีวิตดี๊ดีก็ได้... เพราะที่นี่ไม่มีอะไรให้เปรียบเทียบ ฉันเลยไม่รู้ว่าอย่างไหนถึงจะเรียกว่าดี... ดีสำหรับฉันคืออะไรนะ... คือใจฉันเป็นสุขรึเปล่า... ถ้าฉันตื่นเช้าแล้วรู้สึกสดชื่น... นอนหลับแล้วรู้สึกเบาสบาย... ไม่มีเรื่องทำให้ขุ่นใจระหว่างวัน... นั่นละชีวิตดี๊ดีแบบที่ฉันมอง 


ตอนอยู่เมืองกรุง... ฉันมีมาก แต่รู้สึกว่ามีไม่พอ


ตอนอยู่เมืองนอก... ฉันมีจำกัด แต่พอใจเท่าที่มี


ตอนอยู่นอกเมือง... ฉันไม่มีเลย แต่รู้สึกว่ามีเกินพอ

 

_________________________________________________

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2015-05-01 15:33:18.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  หน้าตาแห่งความหวัง

 มีโอกาสได้เจอภาพหนึ่งภาพในระหว่างนั่งหายใจทิ้งขว้างอยู่หน้าคีย์บอร์ด แล้วยิ่งเมื่ออ่านรายละเอียดของภาพแล้วยิ่งทำให้คิดว่า ควรจะต้องนำมาพูดถึงในบล็อกสักเตื้อหนึ่ง

 

หากดูแต่ภาพ จะเห็นเพียงแค่มือเล็กๆของทารกที่โผล่พ้นครรภ์มารดาที่ถุกเปิดแผลเล็กๆอยู่ มือเล็กนั้นกุมรอบนิ้วกลางที่สวมถุงมือยางและอยู่ในตำแหน่งเหนือครรภ์นั้น เพียงแค่นี้ ก็อาจจะมหัศจรรย์ด้วยพลังแห่งภาพมากพอแล้ว ทว่า.. รายละเอียดแห่งความมหัศจรรย์นั้น อยู่ ณ ย่อหน้าต่อไปนี้แล้ว

ภาพนี้เป็นภาพการผ่าตัดของเด็กชาย Samuel Alexander Armas ผู้ซึ่งยังไม่เกิดและมีอายุในครรภ์มารดาในขณะนั้นเพียง 21 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างที่มารดาของเด็กน้อยตั้งครรภ์นั้น เด็กชายซามูเอลได้ถูกวินิจฉัยว่ามีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ซึ่งแน่นอนด้วยอายุครรภ์ที่ยังไม่เต็ม 6 เดือนดีนั้น เด็กน้อยไม่สามารถรับการผ่าตัดได้ภายนอกครรภ์มารดา จึงจำเป็นอยู่เองที่นายแพทย์ผู้ทำการรักษาจะต้องเปิดครรภ์และทำการผ่าตัดเด็กน้อยทั้งๆที่ยังนอนอบอุ่นอยู่ในภายในตัวแม่เช่นนั้น

หลังจากที่การผ่าตัดเรียบร้อย ชั่วขณะหนึ่งโดยไม่ทันรู้ตัว มือน้อยๆของเด็กชายซามูเอลที่มีลักษณะของมือและนิ้วที่ครบถ้วนได้ยืดออกมาแล้วกุมรอบนิ้วกลางของนายแพทย์ Joseph Bruner ซึ่งเป็นนายแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดไว้ (นี่ถ้าหนูแก่กว่านี้ ป้าจะพยากรณ์ว่าหนูจะต้องกวนตีนมากๆแน่ๆ จับนิ้วไหนไม่จับ!!) ซึ่งนายแพทย์โจเซฟได้เปิดเผยภายหลังว่า ชั่วขณะที่มือเล็กๆนั้นกำลังเกาะกุมนิ้ว(กลาง)ของเค้าไว้ มันเป็น “ขณะจิตที่แสนตื้นตันในชีวิต” ถึงกับนายแพทย์ผู้โดนกุมนิ้ว(กลาง)รู้สึกตัวชาและไม่อาจเคลื่อนไหวใดๆได้ (เบบี๋หรือแกนดาล์ฟเนี่ย -_-“) โชคดีที่มีคนถ่ายภาพแสนมหัศจรรย์นี้ไว้ได้ทันเวลา (นี่ถ้าหนูชูนิ้วกลางได้ด้วย ป้าว่าจะยิ่งมหัศจรรย์กว่า) ถึงกับผู้เขียนบทความบทความหนึ่งที่เกี่ยวกับภาพๆนี้ ได้ตั้งชื่อภาพนี้ไว้ว่า “มือแห่งความหวัง” ซึ่งต่อมาขุ่นแม่ของเด็กชายซามูเอลก็ได้พูดถึงภาพๆนี้ว่า ทำให้เธอร้องไห้ได้เป็นวันๆด้วยความตื้นตันใจ และเปรียบเปรยไว้อย่างเบาๆสวยๆว่า “การตั้งครรภ์ ไม่ใช่เรื่องของการไร้ความสามารถและการเจ็บป่วย แต่เป็นเรื่องของชีวิตเล็กๆหนึ่งชีวิต”

และในที่สุด เด็กชายซามูเอลก็ได้ถือกำเนิดเมื่อครบอายุครรภ์ในภายหลังด้วยสภาวะร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ตามข่าวไม่ได้บอกซะด้วย ว่าตอนเกิดเหยียดนิ้วไหนออกมาก่อน –>_–> สุดท้าย..เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2015-04-30 15:12:01.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  มือของแม่

 มือของแม่… ‪#‎สังคมก้มหน้า‬
ภาพหญิงชรา ที่เดินหาบขนมขายอยู่ริมถนน
ทำให้ผมหยุดชะงักอยู่ชั่วขณะ
แม้ว่าแกจะเดินจากไปแล้ว
แต่ภาพหญิงแก่ที่ยกมือขึ้นปาดเหงื่อ
เดินฝ่าเปลวแดดออกไปนั้น
ยังคงติดตรึงอยู่ในสายตาของผม จนยากที่จะสลัดออก
มือหยาบกร้านที่มีแต่เส้นเอ็นปูดโปนของหญิงแก่
ทำให้ผมนึกถึงมือของผู้หญิงคนหนึ่ง….
ผู้หญิงซึ่งทำทุกอย่างเพื่อลูกน้อยของตนได้โดยไม่หวังอะไร
นอกจากรอยยิ้มของลูก ….. ผู้หญิงคนนั้น…. คือ แม่ของผมเอง
แม่เป็นแม่ค้า ที่หาบขนมขายอยู่ข้างถนน
วันไหน ขายดี ก็มีเงิน พอจับจ่ายตามอัตภาพ
หากวันไหน ขายไม่ได้ ก็ต้องใช้เงินอย่างกระเบียดกระเสียร
แต่แม่ก็ไม่เคยยอมให้ผมรู้จักกับความหิวโหย
อะไรที่อยากกิน แม่มักหามาให้ผมเสมอ
ไม่ว่าของสิ่งนั้นมันจะทำให้แม่ต้องอดสักกี่มื้อก็ตาม
เวลาที่ผมนั่งกินขนมอย่างเอร็ดอร่อย แม่มักจะมองดูเงียบๆ
ริมฝีปากของแม่ปรากฏรอยยิ้มน้อยๆ อย่างมีความสุข
ตอนนั้น ผมไม่เคยสนใจเลยว่า
ขนมชิ้นเล็กราคาแพงที่แม่หามาให้นั้น
ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อของแม่กี่หยด
ไม่เคยนึกสงสัยด้วยซ้ำว่า หลังจากที่ผมกินขนมจนอิ่ม
จะมีอะไรเหลือตกถึงท้องแม่ไหม ?
ผมรู้เพียงอย่างเดียวคือ แม่เป็นหญิงแก่ที่หาบขนมขาย……….
…….ยามใดที่มโนธรรมมาย้ำเตือนให้ผม
คิดถึงความเหน็ดเหนื่อยของแม่ สัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอด
ก็มักจะหลบเลี่ยงความรู้สึกผิดในใจด้วยการบอกว่า
ในเมื่อแม่เกิดผมมา
มันก็เป็นหน้าที่ของแม่ที่ต้องหาบขนมขายเพื่อหาเลี้ยงผม
ถ้าไม่มีอะไรกิน
ขนมที่เหลือจากการขายมันก็ช่วยให้แม่อิ่มได้นี่นา
ยามใด ที่มือนั้นยื่นมาจับต้องดึงผมไปกอดไว้แนบอก
ยามนั้น ผมก็มักจะเบี่ยงตัวหนีด้วยความรู้สึกขยะแขยง
แม้ไม่เอื้อนเอ่ยออกมาเป็นวาจา แต่แววตาที่ผมแสดงออก
มันก็บอกถึงความรู้สึกภายในอย่างโจ่งแจ้ง
แววตาที่ทำให้แม่ชะงัก แม่มองหน้าผมอย่างเข้าใจ
แล้วก็มีท่าทีงกๆ เงิ่นๆ อย่างคนรู้สึกผิด แม่ไม่พูดอะไรสักคำ
มือหยาบกร้านนั้นกำแน่นค่อยๆ ตกอยู่ข้างลำตัว ไหล่ของแม่ลู่ลง…
หลังจากวันนั้น มือของแม่ไม่กล้าที่จะเอื้อมมากอดผมอีกเลย
….ตอนนั้น ผมรู้สึกสบายใจนะ
ที่ไม่ต้องสัมผัสกับมือที่หยาบกระด้างที่น่ารังเกียจนั่น
…แต่เมื่อ เวลาผ่านไป ผมกลับเกิดความรู้สึกที่ต่างจากเดิม…
จริง ๆ แล้วสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่ใช้มือหยาบกร้านของแม่หรอก
มือที่เนียนสวยราวกับลูกผู้ดี ของผมต่างหากที่น่าขยะแขยง
ขณะที่มือแม่กร้านเพราะ กรำงานหนักเพื่อเลี้ยงผม
แต่มือที่อ่อนนุ่มของผมไม่เคยทำประโยชน์เพื่อใครเลยนอกจากตัวเอง
น่าขันนะ เมื่อผมเติบใหญ่ และประสบความสำเร็จในชีวิต
หลายครั้งหลายคราที่มีโอกาสจับต้องมือของผู้หญิงมากหน้า
มือที่ นิ่ม หอมกรุ่นกับเล็บเคลือบสีสด
และเรียวปากนุ่มสวยช่างฉอเลาะนั้นไม่ได้ทำให้ผมโหยหาเลยสักนิด
สิ่งที่ผมร่ำร้อง กลับเป็น
มือที่หยาบกระด้างของผู้หญิงเพียงคนเดียว…
ผู้หญิงที่หาบคอนกระจาด
เดินเร่ขายขนมอยู่ข้างถนนเพื่อเลี้ยงลูกชาย
ผู้หญิงไม่ค่อยพูด ที่มักใช้สายตาเฝ้ามองผมอยู่เงียบๆ
สายตาที่สื่อความรู้สึกของแม่คนนึงซึ่งมีต่อลูก
สายตาอ่อนโยนคู่นั้นเหมือนกับจะบอกผมเสมอว่า
ผมคือ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของแม่…
อาจจะเป็นเพราะพ่อจากไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่นตั้งแต่ผมยังเล็กก็ได้
ทำให้แม่พยามทำทุกอย่างเพื่อชดเชยความเป็นลูกไม่มีพ่อให้ผม
เท่าที่แม่ค้าหาบขนมขายอย่างแม่จะทำได้
แม่คงกลัวว่าผมจะกลายเป็นเด็กมีปัญหาเพราะขาดพ่อล่ะมั้ง
แต่แม่ไม่เคยรู้หรอกว่า ในสายตาของผม….ผู้ชายที่ทำให้ผมเกิดมา
ไม่ได้มีความสำคัญกับผมเลยสักนิด….. ผมเกลียดผู้ชายคนนั้น …..
ตาแก่ที่กินเหล้าจนเมา เอะอะ โวยวาย ทำร้ายแม่ผม
หลายครั้งที่ผมเห็นพ่อใช้คำพูดถากถาง ระราน อาละวาดใส่แม่
แม่ผู้น่าสมเพชของผมก็ไม่เคยลุกขึ้นมาต่อต้านเลยสักนิด
แม่มักยอมพ่อเสมอ….. ยอมถูกซ้อมเป็นกระสอบทราย
แล้วก็แอบไปนั่งร้องไห้คนเดียวเงียบๆ
ยอมทำงานหนักเดินขายของวันละหลายๆ กิโล
เพื่อเอาเงินมาเลี้ยงครอบครัว …….ส่วนเงินเดือนของพ่อน่ะหรือ?
มันจมลงในขวดเหล้าหมดแล้ว
สภาพของแม่ที่ผมเห็น ทำให้ผมได้แต่นึกในใจว่า
ถ้าผมแต่งงาน ผมจะหา เมีย อย่างแม่
แต่ถ้าผมเป็นผู้หญิง
ผมจะไม่ยอมมีชีวิตที่น่าเวทนาแบบแม่ เด็ดขาด!
ผู้หญิงที่ยอมเป็นกระโถนรองรับอารมณ์ของผู้ชาย
ผู้หญิงที่ยอมให้สามีโขกสับอย่างกับทาสในเรือนเบี้ย
ยอมทำงานบ้านจนดึกจนดื่น
ยอมตื่นแต่เช้ามาทำขนมขายเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
ยอมแม้กระทั่งให้ผู้หญิงอื่นมาแย่งผัวตัวเองไปต่อหน้าต่อตา
แม่ยอมรับชะตากรรมที่เกิดขึ้น
โดยไม่เคยคิดจะต่อสู้เรียกร้องสิทธิอะไรเลย
แม่มีปากเสียงกับพ่อเพียงครั้งเดียว ตอนที่พ่อจะเอาผมไปอยู่ด้วย
ตอนนั้นผมเห็นแม่สู้ยิบตาราวกับหมาจนตรอกเลยทีเดียว
พ่อยอมให้ผมอยู่กับแม่อย่างไม่คิดจะเยื้อแย่ง
“น้ำหน้าอย่างเธอ จะเลี้ยงลูกได้สักแค่ไหนกันเชียว
อีกหน่อยลูกมันคงต้องหาบขนมขายทั้งชาติ เหมือนเธอนั่นแหล่ะ”
นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่แม่และผมได้ยินจากปากของพ่อ
มันเป็นคำพูดที่ทำให้แม่ฮึดสู้
แม่ทำงานหนักตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินส่งผมเรียนสูงๆ
ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำให้แม่ผิดหวังเลย
การเรียนของผมอยู่ในขั้นดีเยี่ยมจนได้รางวัลจากทางโรงเรียนเสมอ
เปล่าหรอกนะ ผมไม่ได้ตั้งใจเรียนเพื่อแม่หรอก
ตลอดเวลาผมไม่ได้คิดที่จะทำอะไรเพื่อแม่เลยสักครั้ง
แต่ที่ผมตั้งใจเรียน ก็เพราะรู้ว่า….การศึกษาเป็นหนทางเดียว
ที่จะทำให้ผมหลุดพ้นจากบ้านในสลัมโทรมๆ แห่งนี้ต่างหาก
ความทะเยอทะยานในอดีตเป็นแรงผลักดัน
ที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จในชีวิต
โดยมีโอกาสดี ๆ ที่โชคชะตาหยิบยื่นให้เป็นตัวช่วยสนับสนุน
สิ่งเหล่านี้ ทำให้ผมหลงระเริงอยู่นานทีเดียว
มันทำให้ผมหยิ่งผยอง คิดว่าตัวเองนั้นเก่งกล้า
สามารถก้าวจากจุดศูนย์ขึ้นมายืนผงาดอยู่ได้ด้วยขาตัวเอง
ทั้ง ๆ ที่ ความจริงแล้ว ความสำเร็จของปริญญาระดับด๊อกเตอร์
ที่แปะข้างฝาบ้านของผมนั้นมีแม่อยู่เบื้องหลังเสมอ
แม่ผู้จบ ป. 4 แต่ไม่มีเงินซื้อใบสุทธิ
ขาของผมยืนผงาดออยู่ได้ ด้วยการเหยีบบ่าของแม่โดยแท้
และผมก็ไม่เคยสนใจเลยสักนิดว่า
บ่าที่เหยียบเป็นฐานนั้นจะชอกช้ำเพียงใด
เพราะเจ้าของบ่า ไม่เคยปริปากบอกผมเลย
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไร แม่ก็ยังคงเป็นคนพูดน้อยทำมากเสมอ
แม่เป็นผู้ฟังที่ดีมาตั้งแต่ผมยังเด็กแล้ว
ทุกครั้งที่ผมมีความกังวล แม่จะคอยรับฟังเสมอ
เวลาที่ผมระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจ
หลายครั้งที่แม่ฟัง จำนวนเงินที่เด็กชายเอ่ยขอ
ยามต้องการจะซื้อของต่างๆ เพื่อให้มีเหมือนลูกคนอื่น
แม่ไม่เคย แย้ง นิ่ง…ฟัง…
หลังจากวันนั้น แม่ขายของจนค่ำมืดกว่าปกติอยู่หลายวัน
และวันหนึ่งแม่ก็ยื่นเงินให้ผมเพื่อไปซื้อของที่อยากได้
ยามที่ผมรับเงินจากมือของแม่ ผมรู้สึกว่า
มือของแม่หยาบกร้านกว่าเคย….
แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรนักหรอก เพราะถึงมือ
มือนี้จะต้องหยาบกร้านเพิ่มขึ้นสักแค่ไหน
มันก็ยังคงหยิบยื่นมความสะดวกสบายให้ผมได้เหมือนเดิม
และมันก็เป็นเช่นนี้เสมอมา ไม่ว่ายามที่ผม สุข หรือ ทุกข์
มือของแม่จะอยู่เคียงข้าง คอยช่วยประคับประคองผมเสมอ
ตราบชั่วชีวิตของแม่
จนกระทั่ง วันนี้…
หลายสิ่งในชีวิตของผมเปลี่ยนไป…..
ผมมีชื่อเสียง มีเกียรติยศ มีคนนับหน้าถือตา
มีบ้านหลังใหญ่ มีรถคันงาม มีเงินทอง
มีมือนุ่มนิ่มของผู้หญิงสวยๆ คอยคลอเคลีย
ทุกสิ่งที่ผมเคยต้องการล้วนมากองอยู่แทบเท้าของผม
แต่สิ่งที่ผมอยากได้มากที่สุดกลับขาดหายไป ณ วันนี้
ข้างกายของผม
ไม่มีมือของแม่…..

ชอบกด Like 
ใช่กด Share
โดนเชิญ Comment
************************
กดไลค์ กดแชร์ "สังคม ก้มหน้า"
ติดตาม เพิ่มเพื่อนไลน์ ไอดี @qat0238l

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2015-04-30 03:42:20.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >   “ไม่เป็นไร ไปยุ่งงานของลูกนะ พรุ่งนี้พ่อจะโทรหาใหม่”

 “ไม่เป็นไร ไปยุ่งงานของลูกนะ พรุ่งนี้พ่อจะโทรหาใหม่”

มีคุณลุงอายุ ๗๐ กว่าคนหนึ่ง
โทรหาลูกสาวทุกวัน และลุงก็ได้ยินแต่เสียงพูดของลูกสาวว่า “ขอโทษคะ ตอนนี้ไม่ว่างรับสาย กรุณาฝากข้อความไว้นะคะ” เสียงอ่อนหวานน่ารักนี้ ทำให้คุณลุงพอใจ หน้ามีรอยยิ้ม
แม้จะรู้ว่าลูกไม่ได้รับสาย ก็ยังพูดต่อไปว่า “ไม่เป็นไร ไปยุ่งงานของลูกนะ พรุ่งนี้พ่อจะโทรหาใหม่” ความจริง เจ้าของเสียง ซึ่งเป็นของลูกสาวคุณลุง ได้ลาจากโลกนี้ไปแล้วเมื่อ ๓ ปีก่อน จากอุบัติเหตุทางถนน เสียงพูดนี้ เป็นวิธีเดียวที่คุณลุงจะยินจากลูกสาว เพื่อคลายความคิดถึง
มันเหมือนกุญแจดอกหนึ่ง ที่สามารถเปิดประตูลึกลับ ที่นั่นมีความทรงจำที่หวานฉ่ำของลูกสาว เมื่อลูกสาวจากไป ไม่มีคนใช้เบอร์นี้แล้ว..
แต่คุณลุงก็ยังจ่ายค่ารายเดือนต่อไปไม่ได้หยุด
ทุกวันเมื่อได้ยินคำพูดนี้ คุณลุงรู้สึกเหมือนว่า ลูกสาวไม่ได้จากไปไกล ยังทำงานอยู่ที่บริษัทเดิม คุณลุงก็เหมือนนั่งข้างลูกสาว มองดูลูกสาวด้วยรอยยิ้ม ดูลูกสาวพิมพ์เอกสาร พูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน ถ่ายเอกสารของที่ทำงานอยู่....
ความทรงจำอันหวานฉ่ำนี้ ทำให้คุณลุงผ่านกลางคืนที่ยาว ผ่านความทุกข์ความเจ็บปวดไปได้ ในทะเลที่ไม่เห็นฝั่ง บางที...แค่คำพูดคำเดียว
ก็ทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำได้..... แต่วันหนึ่ง ตอนคุณลุงโทรเบอร์ลูกสาว เสียงของลูกสาวหายไปซะแล้ว คุณลุงได้ยินแต่คำพูดว่า “ไม่ได้เปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้” คุณลุงตกใจ
ทำอะไรไม่ถูก เหมือนสวรรค์ได้หายไปต่อหน้า
คุณลุงพยายามหาเบอร์ของ คอลเซ็นเตอร์ เพื่อโทรไปถาม พอพนักงานรับสาย คุณลุงพูดเริ่มต้นไม่ถูก เพราะน้ำตาร่วงเป็นทางยาว เมื่อ พนักงานพยายามฟังจนเข้าใจที่คุณลุงพูด...
จึงอธิบายว่า ทางบริษัทได้ปรับปรุงระบบ
และได้ส่งข้อความไปยังผู้ใช้ ให้ย้ายข้อความเดิมไปยังระบบใหม่ มิฉะนั้น คำพูดเก่าที่บันทึกไว้ก็จะถูกลบ แต่คุณลุงไม่เคยเปิดดูข้อความ เมื่อระบบใหม่เริ่มทำงาน คำพูดที่บันทึกไว้อันล่ำค่าของลูกสาวคุณลุงจึงหายไป คุณลุงความหวังพังทลาย “นี่เป็นเสียงบันทึกของลูกสาวที่จากไปแล้ว
ต่อไปลุงจะทำยังไง ?” คุณลุงพูดสะอื้นไป
ร้องไห้ไป เหมือนเด็กที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ พนักงานจึงรีบรายงานเรื่องนี้ไปยังหัวหน้า ๆ ก็รีบติดต่อไปยังแผนก ไอ ที ของบริษัท เจ้าหน้าที่ใช้เวลาเป็นเดือน จาก voice mail ของลูกค้าหลาย ๆ ล้านคน จนหาเจอเสียงของลูกสาวคุณลุง
แล้วก็หาทางใส่กลับไปเหมือนเดิม พนักงานใช้วิธีธรรมดาทั่วไป ใช้โทรศัพท์โทรเข้าเบอร์ลูกสาวคุณลุง และก็ได้คำพูดอัดเสียงล้ำค่านั้น
แล้วก็ผ่านกระบวนการ จนกลับสู่แบบเดิม
คุณลุงที่ค่อยท่าแล้วค่อยท่าอีก ในที่สุด ก็ได้ยินเสียงคำพูดของลูกสาวอีกครั้งหนึ่ง วินาทีนั้น คุณลุงดีใจมาก พูดว่า “ได้ยินแล้ว ได้ยินแล้ว” เหมือนกับว่า แค่เอื้อมมือไป ก็กอดลูกสาวได้ เหมือนกับว่า ลูกสาวก็ยังคลอเคลียอยู่ข้างคุณลุง เพื่อไม่ให้คำพูดอัดเสียงนี้หายไปอีก พนักงานบริษัท
ได้บันทึกคำพูดนี้ลงบนแผ่น ซีดี และส่งให้คุณลุงเก็บไว้ เราทุกคนเป็นคนธรรมดา ไม่สามารถยับยั้งภัย อันตรายต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นได้ แต่เราสามารถ
ใช้ความพยายามและอดทน เพื่อเย็บหัวใจของพ่อที่แตกสะลายดวงหนึ่ง ให้กลับมาเหมือนเดิม ให้คุณลุงยังอยู่อย่างอบอุ่นในโลกของเรา 
คนจีนมีคำพูดเปรียบเทียบว่า ต้นไม้อยากหยุดนิ่ง แต่ลมไม่หยุด ลูกอยากเลี้ยงดูพ่อแม่ แต่พ่อแม่ไม่อยู่แล้ว เรื่องของโลก คาดการณ์ยาก บางที
คนที่จากไปก่อน อาจจะเป็นคนหนุ่มคนสาว 
เหลือไว้แต่พ่อแม่สูงวัยที่เสียใจ ไม่ว่าจะยังไง
จงรักษาและทะนุถนอมช่วงเวลาที่อยู่กับครอบครัว อย่าดีกับคนนอก มากกว่าคนในครอบครัว
การกตัญญูต่อพ่อแม่ ไม่ต้องใช้เงินเยอะ
และไม่ต้องใช้เงินมาก คำพูดคำเดียว คำพูดที่เป็นห่วงเป็นใย หอมสักครั้ง ข้อความสั้นสักข้อความ ดอกไม้สักดอก กอดสักครั้ง บางทีก็ทำให้พ่อแม่น้ำตาร่วงได้ พ่อแม่ในโลกใบนี้ ไม่ได้ต้องการมาก
แค่นิดเดียวก็พอใจแล้ว วันนี้คุณให้เวลากับคนที่รักคุณหรือยัง....

ชอบกด Like 
ใช่กด Share
โดนเชิญ Comment
************************
กดไลค์ กดแชร์ "สังคม ก้มหน้า"
ติดตาม เพิ่มเพื่อนไลน์ ไอดี @qat0238l

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2015-04-30 02:10:14.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  มีพี่คนนึงบอกผมว่าถ้า เอาเงินให้พี่สาว ผมจะมีความสุขได้

 "มีพี่คนนึงบอกผมว่าถ้า เอาเงินให้พี่สาว ผมจะมีความสุขได้" 
เด็กเสื้อเขียวหน้าตาเศร้าสร้อย ได้พบกับชายคนหนึ่งริมข้างทาง เด็กถามชายคนนั้นว่า "น้าครับ พี่ผู้หญิงเค้ามายืนทำอะไรกันหรอ" น้าผู้ชายก็ตอบว่า "อ๋อ พี่ๆเขาเป็นคนที่มอบความสุขให้กับเราน่ะ ใครอยากมีความสุขก็มาหาพี่เขาได้เลย ก็แค่จ่ายเงินเขานิดหน่อยเราก็มีความสุขแล้ว" เด็กถามกลับด้วยความดีใจ "จริงหรอครับ" "จริงสิ ถ้าหนูไม่เชื่อหนูก็ลองสิ ฮ่าๆๆ" ชายหนุ่มหัวเราะแล้วเดินจากไป ผ่านไปหนึ่งวันเด็กคนนี้กลับมาอีกครั้งพร้อมเงินถุงใหญ่ เขาค่อยๆเดินเข้าไปหาพี่สาวที่ยืนอยู่ริมกำแพง "น้องมาทำอะไรแถวนี้ ที่นี่มันไม่ใช่ที่สำหรับเด็กนะ " พี่สาวพูดใส่เด็กตัวน้อยที่ยืนอยู่ด้านหน้าเสียงดังจนกลัว เด็กน้อยตอบกลับด้วยเสียงสั่นเทา"คือ...มีพี่คนนึงบอกผมว่าถ้าเอาเงินให้พี่สาว ผมจะมีความสุขได้ ผมเลยเอาเงินที่ผมเก็บไว้มาให้พี่ ผมไม่เคยมีเเม่ ไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากอ้อมกอด พี่มาเป็นแม่ให้ผมได้มั๊ยครับ" หญิงสาวได้ยินดังนั้น น้ำตาของเธอไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอค่อยๆทรุดตัวลงและกอดเด็กน้อยไว้ในอ้อมอก......
ปล.ภาพประกอบ อย่าได้สนใจ

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-09-10 21:24:53.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  EMS 10/9/57

EMS 10/9/57  
EL644775227th สุภลักษณ์ 24150
EL644775235th กรรณิกา 10260
EL644775244th วรัญญา 72150
EL644775258th ภาศิณี 10140
EL644775261th วรัญญา 83110
EL644775275th ศิริพร 13110
EL644775289th ธีรยา 15000
EL644775292th นภัสสร 17000
EL644775301th ฐิติรัตน์ 63120
EL644775315th นิวัฒน์ 18000
EL 5124 1035 5 TH คุณ.รุ้งลัดดาวัลย์/หนองจอก
EL 5124 1024 0 TH คุณ.มินตืตา/บางเเสน
EL 5124 1004 6 TH คุณ.กาจญา/ยโสธร
EL 5124 1000 1 TH คุณ.ปรัชญา/จักราช
EL 5124 1010 3 TH คุณ.วริศรา/พิษณุโลก
EL 5124 1019 6 TH คุณ.จุฑารัตน์/อุทัย
EL 5124 1017 9 TH คุณ.ภัทรพงษ์/ลาดยาว
EL 5124 1026 7 TH คุณ.พีระพล/นครพนม
EL 5124 1025 3 TH คุณ.กัญญาภัทร/ขอนเเก่น
EL 5124 1027 5 TH คุณ.นฤมล/ลาดกระบัง
EL 5124 1037 2 TH คุณ.วิดารัตน์/ทุ่งหว้า
EL 5124 1079 7 TH คุณ.ร้านศิริลักษณ์/พะโต๊ะ
EL 5124 1082 3 TH คุณ.จินตนา/บึงกาฬ
EL 5124 1022 2 TH คุณ.ธเนศ/สกลนคร
EL 5124 1036 9 TH คุณ.บุญนิสา/บางมด
EL 5124 1002 9 TH คุณ.มนัส/เกาะสมุย
EL 5124 1011 7 TH คุณ.รักขณา/เเพร่
EL 5124 1012 5 TH คุณ.กันทรา/นนทบุรี
EL 5124 1016 5 TH คุณ.อารียา/ยานนาวา
EL 5124 1023 6 TH คุณ.กัลญาณี/ลำปาง
EL 5124 1014 8 TH คุณ.กนกวรรณ/สามเสนใน
EL 5124 1001 5 TH คุณ.ภูชนะ/ยะลา
EL 5124 1003 2 TH คุณ.ขวัญฤทัย/เขามหาชัย
EL 5124 1021 9 TH คุณ.จารุวรรณ/เกาะคา
EL 5124 1008 5 TH คุณ.กำไรทอง/บางซื่อ
EL 5124 1005 0 TH คุณ.อังคณา/บางนา
EL 5124 1009 4 TH คุณ.ณัฐณิชา/พรพมพิราม
EL 5124 1020 5 TH คุณ.วัชรี/สมุทรปราการ
EL 5124 1006 3 TH คุณ.ศันสนีย์/บางเเค

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-09-09 19:46:22.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  ส่งวันอังคารที่ 9/9/57

 หมายเลข EMS ‪#‎สำหรับผู้ที่โอนก่อนบ่าย3‬  #อบาโลน

วันที่ 8/9/57 
ส่งวันอังคารที่ 9/9/57

EL282265651TH เอวิกา 
EL282265648TH นันต์ชนัญญ์
EL282265634TH วาสนา
EL282265617TH เพ็ญลักษณ์
EL282265625TH ดรุณี 
EL282265603TH เกศสุดา
EL282265594TH กนกกร 
EL282265585TH นันธิวา
EL282265577TH มัณยาภรณ์
EL282265563TH รชนี 
EL282265550TH พชรอร 
EL282265546TH เสาวณีย์ 
EL282265532TH ธัญลักษณ์ 
EL282265529TH ธีรพันธ์ 
EL282265515TH ปลา
EL282265501TH พรรณนิภา
EL282265492TH มนตรา

>>ลูกค้าท่านใดไม่มีชื่อกรุณาแจ้งบูมด่วนเรยนะครัชชช

ขอบคุณที่ไว้วางใจนะคัฟ #อบาโลน

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-09-08 22:55:23.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  ส่งวันจันทร์ที่ 8/9/57

  หมายเลข EMS ‪#‎สำหรับผู้ที่โอนก่อนบ่าย3‬ 

วันที่ 7/9/57 
ส่งวันจันทร์ที่ 8/9/57

EL282265489TH ศศิธร 
EL282265475TH สุกัญญา 
EL282265461TH โฆษิต 
EL282265458TH เบญจมาศ 
EL282265444TH วนัญภรณ์ 
EL282265435TH กรรณภิรมย์
EL282265427TH กัญญาภรณ์ 
EL282265413TH 57-6070946
EL282265400TH ณัฐธยาน์ 
EL282265395TH กรกนก 
EL282265387TH กนกลักษณ์ 
EL282265373TH .ธัญพิชชา 
EL282265360TH เบ็ญญาภา 
EL282265356TH กรชวัล 
EL282265342TH สันสนีย์ 
EL282265339TH นัฐสรณ์ 
EL282265325TH สุภาภรณ์ 
EL282265311TH พฤษภา 
EL282265308TH จิตลัตดา 
EL282265299TH .ขนิษฐา 
EL282265285TH จิณห์วรา 
EL282265271TH สิมิลัน 
EL282265268TH วีนัส 
EL282265254TH พัชรี 
EL282265245TH ปัญญวัฒน์ 
EL282265237TH Tanyalak 
EL282265223TH ณัฐชา 
EL282265210TH พรทิพย์ 
EL282265206TH สิทธิพงศ์ 
EL282265197TH ไพรินทร์ 
EL282265183TH สุรีย์รัตน์ 
EL282265170TH ปริญญาภรณ์ 
EL282265166TH ศิรินภา 
EL282265152TH มงกุฏเเก้ว 
EL282265149TH สุดาทิพย์ 
EL282265135TH ณัฐติยา 
EL282265121TH สุนทรี 
EL282265081TH มณเฑียร 
EL282265078TH วาสิฏฐี 
EL282265064TH ภัคชนก 
EL282265055TH กฤตยา 
EL282265047TH พรนภา 
EL282265033TH นวพร 
EL282265104TH ผกาวัลย์ 
EL282265020TH สุนารี 
EL282265016TH จุฑามาศ 
EL282265002TH นิภาพร 
EL282264996TH สุทิชา 
EL282264982TH มาริษา 
EL282264979TH เมธาวี 
EL282264965TH ภานุกร 
EL282264951TH มาลี 
EL282264948TH ชลธิชา 
EL282264934TH กนกวรรณ 
EL282264925TH พัสตราภรณ์

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-09-08 22:49:36.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  EL352857596TH

 EMS : EL352857596TH = K.รัตนา

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-09-08 22:48:56.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  EL352857582TH

 EMS : EL352857582TH = K.พาณีนันทน์

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-09-02 16:26:54.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  EMS : EL352737151TH

 EMS : EL352737151TH = K ยุวเรศ
จัดส่งเรียบร้อยคัฟ

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-09-01 14:54:07.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  EMS : EL 3528 2729 9 TH

 EMS : EL 3528 2729 9 TH  = K อุไรพร

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-06-13 02:08:53.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ถ้าตั้งครรภ์หลังอายุเกิน 35 ปีจะมีผลกับทารกในครรภ์อย่างไร

 โดยปกติผู้หญิงจะเริ่มเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ที่ดีคือเมื่ออายุประมาณ 23 – 27 ปี แต่ในปัจจุบันที่สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้หญิงแต่งงานช้าลง หรืออาจจะตั้งครรภ์ช้าลง จนบางครั้งกว่าจะเริ่มสร้างครอบครัวก็อายุปาไป 30 – 35 ปี หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินคำที่ว่า พออายุเยอะแล้วจะมีลูกจะลำบาก จะมีอันตราย ฯลฯ จริงๆ แล้วการตั้งครรภ์เมื่ออายุ เกิน 35 ปีนั้นจะมีผลต่อทารกในครรภ์อย่างไรบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลสถิติ รวมถึงคำแนะนำต่างๆ ในการเตรียมตัวมาฝากครับ

 

หากคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์ตอนอายุ 30 ปีขึ้นไป ทารกในครรภ์จะมีภาวะเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะผิดปกติหรือดาวน์ซินโดรม โดยมีสถิติความเสี่ยงที่รวบรวมเกี่ยวกับทารกดังนี้

  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตอนอายุประมาณ 20 ปี ทารกในครรภ์มีโอกาสเป็นดาวน์ซินโดรมเพียง 1 ใน 10,000
  • ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตอนอายุประมาณ 35 ปี ทารกในครรภ์มีโอกาสเป็นดาวน์ซินโดรม 0-3 ใน 1,000 ซึ่งมีโอกาสมากกว่าตอนอายุ 20 ปี
  • และผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ตอนอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป ทารกในครรภ์มีโอกาสเป็นดาวน์ซินโดรมถึง 1 ใน 100 หรือ 1% เลยทีเดียว

ภาวะดาวน์ซินโดรมเป็นภาวะที่ไม่สามารถป้องกันได้ แต่สามารถวินิจฉัยได้ตั้งแต่ทารกยังอยู่ในครรภ์ ซึ่งหญิงตั้งครรภ์ที่อายุเกิน 35 ปีจะได้รับการวินิจฉัยนี้ หากพบว่าเกิดความผิดปกติ คู่สมรสจะต้องเป็นผู้เลือกที่จะตั้งครรภ์ต่อหรือจะยุติการตั้งครรภ์ นอกจากนี้หญิงตั้งครรภ์ที่อายุเกิน 35 ปีมีโอกาสเกิดภาวะความดันสูง เบาหวาน โรคในระบบหัวใจและหลอดเลือด และที่สำคัญคือมีโอกาสแท้งบุตรสูงกว่า แต่หากได้รับการดูแลอย่างดี ปัญหาต่างๆ เหล่านี้ก็ไม่น่าวิตกกังวลมากนัก นอกจากนี้ว่าที่คุณแม่ควรทำตามคำแนะนำของคุณหมอ ดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายที่เหมาะสม และบำรุงร่างกายอยู่เสมอ ก็จะแข็งแรงปลอดภัยทั้งแม่และลูกครับ

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-05-15 18:59:56.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  ความเข้าใจผิด ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เกี่ยวกับการลดพุง

 

สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคุณผู้อ่านต่อไปนี้ เกี่ยวกับการลด"พุง" หรือไขมันหน้าท้อง เป็นความเข้าใจผิดของมวลมนุษยชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กาลสมัยที่คนเชื่อว่าโลกแบนเลยทีเดียว!!

พูดถึงพุง ใครๆ ก็ไม่อยากมีหรอกฮะ (ถ้าคุณเป็นคนนึงที่อยากมีพุง ผมคิดว่า คุณอาจจะเป็นคนส่วนน้อยบนโลกใบนี้) ... แต่ไขมันบริวเณหน้าท้อง หรือ "พุง" ก็มักจะมาพอกที่ตัวเราจนได้ อาจจะตอนเราเริ่มมีอายุมากขึ้น หรือไม่ก็ มาตอนอายุยังน้อยนี่แหละ เพราะไม่ค่อยระวังเรื่องการกิน และไม่ค่อยออกกำลังกาย - พุงก็จะมาเยือนในฐานะแขกที่ไม่ได้รับเชิญ 


           รู้ตัวอีกที มีพุงซะละกรู... ส้มเข้ม ... (แสด)

           สิ่งที่คุณอยากทำเมื่อมีพุง ก็คือการกำจัดมันออกไปฮะ ซึ่งหลายคนมักนึกไปถึงการออกกำลังกายเพื่อลดพุง ตามที่เคยได้ยินกันมาหรือเคยอ่านกันมา จากเว็บหรือบทความต่างๆ ในนิตยสาร ... ตรงนี้แหละฮะ ที่เป็นเรื่องที่หลายคนเข้าใจผิด

            เข้าใจผิดตรงไหนนั่นหรอ .... พร้อมรึยังฮะ ผมจะบอกให้ว่า เข้าใจผิดตรงไหน
            ตั้งใจฟังให้ดีนะครับ ....                             
          
           การออกกำลังกาย เพื่อลดไขมันเฉพาะส่วนตรงหน้าท้อง - ไม่มีในโลกครับ!!! 

           ถูกต้องครับ!! การออกกำลังกาย ที่ลดไขมันตรงพุงโดยตรง ไม่มีอยู่จริงในโลกนี้ฮะ ...
           คือไม่มีท่าไหนในโลกนี้ที่คุณจะทำแล้ว มันพุ่งตรงไปเผาผลาญไขมันบริเวณหน้าท้องเลย

           อ้าว... กรรม  (-"- )

           หลายคนค้านในใจขึ้นมาทันทีเลยว่า "เฮ้ยยยย จริงหรอ? แล้วการซิทอัพล่ะ"

           การซิทอัพเป็นการออกกำลังกายบริเวณกล้ามเนื้อท้องฮะ แต่ทำแล้วมันปวดหน้าท้องเลยนะ มันไม่ได้แปลว่า มันสลายไขมันตรงหน้าท้องหรอ??

           ที่ทำแล้วปวดกล้ามเนื้อหน้าท้อง ก็เพราะมันเป็นการออกกำลังกายบริเวณกล้ามท้องโดยการยกน้ำหนักตัวเรา กล้ามเนื้อหน้าท้องเราก็เลยปวดฮะ
           ก็คล้ายๆ กับเวลาเราออกกำลังกายแขนโดยการยกน้ำหนัก เราก็จะปวดกล้ามแขนฮะ ผลที่ตามมา คือ กล้ามแขนขึ้น
           ผลที่ตามมาจากการซิทอัพ ก็คือ กล้ามท้องขึ้น
       
           แต่กล้ามท้องที่ขึ้นนี้ ก็ไม่ได้แปลว่า เกิดการสลายไขมันบริเณพุงที่เคลือบกล้ามเนื้อหน้าท้องอยู่โดยตรงแต่อย่างใดฮะ

           อ้าว แปลว่า ไขมันหน้าท้องไม่สลายหรอ?

           สลายครับ แต่สลายไปพร้อมๆ กับไขมันบริเวณอื่นๆ ของร่างกายด้วย ไม่ได้สลายเฉพาะส่วนพุง แต่สลายไปพร้อมๆ กับส่วนอื่น เช่น ไขมันตามแขน ขา ก้น คอ ฯลฯ 

           เอ๊ะ ยังไง งง....

           ผมขออธิบายขยายความแป๊บ เผื่อบางคนยัง งงๆ อยู่ (ถ้าไม่งง ก็ถือว่าอ่านเล่นๆ นะครับ)
        
สมมติว่า มีคนอยู่ 4 คน คือ นส. A, B, C, D  :

- นส. A ออกกำลังกาย โดยการ ซิทอัพ   400 ครั้ง      เผาผลาญได้ 100 แคลอรี่ (ตัวเลขสมมติ) 
- นส. B ออกกำลังกาย โดยการ  วิ่ง        30 นาที      เผาผลาญได้ 100 แคลอรี่ (ตัวเลขสมมติ)
- นส. C ออกกำลังกาย โดยการ ยกเวท   100 ครั้ง      เผาผลาญได้ 100 แคลอรี่ (ตัวเลขสมมติ)
- นส. D ออกกำลังกาย โดยการ อะจึ๋งๆ กับแฟน 1 ยก  เผาผลาญได้ 100 แคลอรี่ (ตัวเลขสมมติ)

          จะเห็นว่า ทั้ง 4 คน เผาผลาญได้ 100 แคลอรี่ ... ผลที่ตามมา ก็คือ ทั้ง 4 คน จะสลายไขมันบริเวณพุง ได้เท่าๆ กันครับ เพราะเวลาร่างกายเราเผาผลาญไขมัน มันจะเผาผลาญไปทุกส่วนพร้อมๆ กันครับ ดังนั้น ทั้ง 4 คนนี้ ก็จะเผาผลาญไขมันของตัวเองลงไปทุกส่วน รวมทั้งตรงพุงด้วย

         อ้าว แล้วมันต่างกันตรงไหนอะ ถ้างั้น?
         มันต่างกันตรงผลที่ได้รับจากการออกำลังกายแต่ละอย่างครับ : นส.A จะได้กล้ามเนื้อหน้าท้อง, นส.B จะได้กล้ามเนื้อขา, นส.C จะได้กล้ามแขน, และ นส.D จะได้ความสุขครับ
         ส่วนการเผาผลาญไขมัน ทั้ง 4 คนจะเกิดผลกับร่างกายตัวเองเท่าๆ กัน คือไขมันก็จะลดทั่วร่างกายไปในปริมาณเท่าที่การเผาผลาญ 100 แคลอรี่ จะลดได้

         สำหรับกิจกรรมที่มีความแปรผันของจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญมากที่สุด ได้แก่กิจกรรมของ นส.D ครับ เพราะการอะจึ๋งๆ กับแฟนนั้น จะเผาผลาญได้เท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับบทบาทของคุณ ว่าคุณเป็นแกนนำ เป็นฝ่ายรุก เป็นฝ่ายรับ หรือสวมบทบาทเป็นท่อนซุง ... ในกรณีที่คุณเป็นท่อนซุงนั้น ขอแนะนำให้ลองปรับเปลี่ยนบทบาทดูบ้าง เพราะนอกจากจะเผาผลาญได้น้อยแล้ว ยังอาจก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้อีกด้วย 

         สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อ ก็คือ เวลาร่างกายเราเผาผลาญไขมัน มันเผาผลาญทั่วๆ ไปทุกส่วนฮะ ไม่ว่าจะออกกำลังกายกล้ามเนื้อส่วนไหนและตรงไหนของร่างกาย ก็ตาม
         ไม่เชื่อลองไปดูรูปคนที่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย เพื่อรูปร่างที่ดีขึ้น หรือเพื่อลดพุงก็ได้ฮะ (พวกรูปที่เป็นรูป before & after นั่นแหละครับ)
         จะเห็นว่า ทุกคนผอมในลงทุกส่วนของร่างกาย (คงไม่ใช่เพราะออกกำลังกายทุกส่วนของร่างกายเท่ากันเด๊ะๆ หรอกนะฮะ) แสดงว่า เวลาไขมันมันลด มันลดพร้อมๆ กันทุกส่วน...
  
         ถ้ามันมีการออกกำลังกายที่ลดไขมันเฉพาะส่วนได้จริงๆ ก็คงต้องมีรูปคนที่แขนยังใหญ่เท่าๆ เดิม แต่พุงเล็กลงมาก (ในกรณีที่เน้นซิทอัพ) หรือคนที่พุงยังเท่าๆ เดิม แต่แขนเล็กลงมาก (ในกรณีคนที่เน้นการยกเวท) 

         แล้วที่บอกว่า การซิทอัพ ทำให้เกิดซิกแพ็กล่ะ?

         ก็ถูกครับ การซิทอัพ เป็นการเล่นกล้าม บริเวณกล้ามเนื้อท้อง เพราะฉะนั้น ยิ่งเล่น กล้ามก็ยิ่งโต ก็ยิ่งปูดออกมา (ยิ่งเห็นชัด) แต่จะเป็นซิกแพ็กให้เห็นได้ก็ต่อเมื่อไขมันตรงหน้าท้องมันยุบลงไป (คือต้องผอมถึงจุดนึง) ถ้ายังมีไขมันหนาๆ เคลือบอยู่  ต่อให้กล้ามเนื้อหน้าท้องเป็นลูกใหญ่แค่ไหน แต่ถ้ามันโดนไขมันหนาๆ บังอยู่ ก็จะไม่เห็นว่าเป็นซิกแพ็ก
 

          บางคนบอกว่า แต่หลังจากซิทอัพเยอะๆ แล้ว รู้สึกว่าพุงยุบลงเร็วมาก ยุบตั้งแต่น้ำหนักยังไม่ค่อยลดเลยนะคะคุณหมอ .... มันไม่ใช่เพราะไขมันตรงหน้าท้องถูกสลายไปหรอกหรอ?

           การที่เราเห็นว่าพุงยุบลงอย่างรวดเร็วหลังจากเริ่มซิทอัพอย่างจริงจังได้ไม่นาน เป็นผลที่เกิดจากปรากฎการณ์กล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้น หรือที่ผมเรียกสั้นๆ ว่าท้องตึง  ฮะ
        
           ท้องตึง ก้คือ เวลากล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรงขึ้น มันก็จะหดรัดเข้ากับลำตัวมากขึ้นฮะ แทนที่จะย้อยๆ หย่อนๆ ยานๆ ไปข้างหน้า มันก็จะกระชับเข้าหาตัวเรา พร้อมทั้งพาไขมันที่มันติดตรงหน้าท้องเรา กระชับเข้าหาตัวเราด้วย... ทำให้ภาพโดยรวมที่เราเห็นนั้น เสมือนว่าพุงยุบลงไปเยอะ ทั้งที่ในความเป็นจริงไขมันหน้าท้องอาจจะยังหนาเท่าๆ เดิม เพียงแต่มันกระชับเข้าหาลำตัวเรามากขึ้น ก็เลยเหมือนพุงเล็กลงฮะ

         ก็หวังว่าความรู้ที่ผมนำมาแบ่งปันในวันนี้ เกี่ยวกับความเข้าใจผิดในการลดไขมันเฉพาะส่วนบริเวณหน้าท้อง รวมไปถึงความรู้ทั่วๆ ไปเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหน้าท้อง จะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่าน และเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ แฟน กิ๊ก คนรู้จัก ของคุณผู้อ่าน อีกต่อนึง (เวลาเอาไปเล่า หรือเวลากดแชร์ ไงฮะ)    
         .... ก็อย่างว่าแหละครับ เอาความรู้มาแบ่งปัน ก็อยากให้คนได้รับข้อมูลไปเยอะๆ ฮะ

ฮิ้วววววววววววววววววววววววววว

แฟนเพจ ดูดี 24 ชั่วโมง

พุงหาย แขนลด ขาเล็ก
 

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-05-15 17:02:59.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  อัพเดท EMS บางส่วนครับ

EL129506771TH : K ธนภรณ์  ไฮลี่ 12 กล่อง
EL129506785TH : K วิชชุตา  ฟูโก้ 2 กระปุก

EK831344966TH : K จุฑารัตน์ ฟูโก้ 1 กระปุก

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-05-10 05:58:35.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  แจ้ง...ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อัพเดทลงเวปไซต์

 ติดตามที่ แฟนเพจนะครับ หรือ สอบถามที่เบอร์ 0913856012 Line : ranboomshop

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-04-11 04:28:45.0     Forum: บทความน่าสนใจ  >  รับสมัครตัวแทนจำหน่ายbbb รายได้ 700-2,000฿/วัน

 

รับสมัครตัวแทนจำหน่าย  ทุกจังหวัด ผลตอบรับดี ทั้งรายได้ และผู้ใช้สินค้า

เนื่องจากสินค้า ได้รับกระแสความนิยมและการตอบรับ

จากกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย เป็นจำนวนมาก

จึงทำให้มีผู้แอบอ้างทำสินค้าลอกเลียนแบบ มาจำหน่ายตามเว็ปไซด์ และท้องตลาด

ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่าราคาปกติ ค่อนข้างมาก

สินค้าปลอมเป็นสินค้าที่ไม่ผ่าน อย.แน่นอน ซึ่งอาจมีผลต่อความปลอดภัยในการบริโภค

อาจจะมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพร่างกายของท่านและอาจจะมีสารตัวอื่นที่ทำให้ผู้บริโภคทานแล้ว

ไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่ต้องการหรือบริโภคแล้วอาจจะทำให้ท่านแย่ลงกว่าเดิม

ขอให้ผู้บริโภคทุกท่านระมัดระวังในการเลือกซื้อสินค้า ที่มีราคาต่ำกว่าปกติ

แนะนำให้ท่านเลือกร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายจากทางบริษัทเท่านั้น

**หากท่านพบเห็นร้านต้องสงสัย ขอให้ท่านถามแหล่งที่มา ถามชื่อและถ่ายรูปผู้ที่เป็นตัวแทนจำหน่าย

ถ้าเค้าไม่สามารถตอบคำถามคุณให้สันนิษฐานได้เลยว่าอาจจะเป็นสินค้าลอกเลียนแบบ

หรือถ้าท่านได้ข้อมูลมาท่านสามารถส่ง ชื่อกับเบอร์โทรศัพท์ ตัวแทนจำหน่ายนั้นๆมาให้ทางบริษัทตรวจสอบได้ทันที** 


สำหรับท่านที่มีความประสงค์

หรือสนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย สอบถามข้อมูล

โทร 099-6382854 ติดต่อคุณ สันติวัฒน์ (บูม)

ไอดีไลน์ : ranboomshop

หรือ กรอกรายละเอียดการติดต่อ ชื่อ-นามสกุล เบอร์โทรติดต่อ

และจังหวัดที่ท่านอาศัยอยู่ปัจจุบัน ตรงช่องคอมเม้นท์ด้านล่าง

 

หมายเหตุ *เนื่องจากเราต้องการ ตัวแทนจำหน่าย ที่สนใจจริงๆเท่านั้น เพื่อที่จะรักษากลไกราคาสินค้าและป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภคทุกท่าน

 

 userfiles/profile-picture/a8ca9517-32af-453b-b341-652d6f221d14/ดูดี1.jpg

Post : 2014-04-08 16:13:07.0     Forum: EMS ที่ส่งแล้ว  >  EMS : บางส่วน 8/04/2557

 EK854168981TH  : K เบญจพร

 EK854168690TH  : K จงรัก

 EK854168726TH  : K ยุวเรศ

 EK854168624TH  : K กชพร

 EK854168536TH  : K นิราภรณ์

1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | ... 다음 끝

 

BBB ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน สกัด เผาผลาญ กระชับ

เอาล่ะครับมาทำความรู้จักกับสินค้าลดน้ำหนักที่มีชื่อว่า bbb

Block = สกัด /Burn = เผาผลาญ /Build = กระชับ 

ทีนี้ ทำไมต้อง BBB

*Blok ก็คือการสกัดกั้น ป้องกันการดูดซึมพวกสารอาหารที่เราทานเข้าไปแล้วก็ทำให้เรา

เกิดความอ้วนขึ้นมานะคับ

*Bern ก็คือไปเผาผลาญพวกไขมันที่สะสมเข้าในร่างกายแล้ว กินเข้าไปแล้วทำยังไงล่ะ เอาออกไม่ได้ก็ต้อง

ไปเผาผลาญมันทิ้งออกไปนะคับ

*Build ช่วยให้ผิวเราผอมแบบกระชับนะคับ ไม่ใช่ผอมแบบเหี่ยววๆนะครับ ^^

เลยต้องเป็น blok bern build นะครับ